หลายคนอาจคิดว่าโรคหัวใจมักเกิดขึ้นได้เฉพาะผู้สูงอายุเป็นส่วนใหญ่ แต่ความเป็นจริงแล้ว วัยรุ่นก็สามารถเป็นโรคหัวใจได้เช่นกัน หากคุณมีปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็นพันธุกรรม วิถีชีวิต หรือโรคประจำตัว ซึ่งการเช็กความเสี่ยงหรือการตรวจโรคหัวใจตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยเฉพาะคนที่มีปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ ก็จะสามารถหาวิธีรักษาได้อย่างทันท่วงที และวางแผนดูแลจัดการการใช้ชีวิตเพื่อลดความรุนแรงของการเป็นโรคหัวใจได้
เช็กความเสี่ยง พร้อมแนะนำวิธีตรวจโรคหัวใจ
การทำความเข้าใจถึงปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจในวัยรุ่น เป็นสิ่งสำคัญเพื่อประเมินว่าคุณมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจหรือไม่ เพื่อเข้ารับการรักษาหรือวางแผนดูแลตัวเองได้อย่างทันท่วงที เพราะหากไม่รีบวางแผนการดูแลรักษา ยิ่งอายุมากขึ้น ก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจได้มากยิ่งขึ้น จึงทำให้หลายคนเข้าใจกันว่าโรคหัวใจมักพบในผู้สูงอายุนั่นเอง ซึ่งปัจจัยเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจ มีดังนี้
1. พันธุกรรม
คนในครอบครัวไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ พี่น้อง หรือญาติคนอื่น ๆ มีประวัติเป็นโรคหัวใจหรือมีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงอันดับต้น ๆ ที่ทำให้วัยรุ่นมีโอกาสเป็นโรคหัวใจได้ ไปจนถึงความผิดปกติทางพันธุกรรมบางอย่าง ความผิดปกติของโครงสร้างหัวใจ หรือภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ก็สามารถเพิ่มโอกาสในการเป็นโรคหัวใจได้ เช่น ภาวะคอเลสเตอรอลในเลือดสูงของคนในครอบครัว เป็นต้น การตรวจโรคหัวใจและจัดการความผิดปกติเหล่านั้นตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจได้
2. ไลฟ์สไตล์
ไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตในแต่ละวัน อาจส่งผลหรือทำให้มีความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจได้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารประเภทที่มีไขมันอิ่มตัว ไขมันทรานส์ เกลือ และน้ำตาลในปริมาณมาก ๆ จะส่งผลให้ความดันโลหิตสูง และมีคอเลสเตอรอลสูง อาจนำไปสู่โรคอ้วน อีกทั้งการไม่ออกกำลังกาย ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสในการเกิดโรคหัวใจได้มากยิ่งขึ้น การสูบบุหรี่ยังเป็นอีกปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ เนื่องจากจะส่งผลต่อหลอดเลือด เพิ่มความดันโลหิต และลดปริมาณออกซิเจนที่ไปเลี้ยงหัวใจนั่นเอง
3. โรคประจำตัว
โรคอ้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญสำหรับโรคหัวใจ เพราะอาจทำให้มีความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญสำหรับโรคหัวใจอาจทำให้หลอดเลือดและหัวใจเสียหาย เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจวาย และโรคหลอดเลือดสมองได้ และการมีระดับคอเลสเตอรอลสูงหรือระดับน้ำตาลในเลือดสูงนั้น ก็จะยิ่งทำหลอดเลือดอุดตันและทำลายเส้นประสาท ทำให้การไหลเวียนเลือดไม่ดี เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดได้นั่นเอง
ตรวจโรคหัวใจด้วยวิธีการใดได้บ้าง?
เมื่อเช็กความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจที่เราได้แนะนำไปข้างต้น หากมีความกังวลใจสามารถตรวจโรคหัวใจโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง ถ้าคุณมีความเสี่ยงหรือตรวจพบว่าเป็นโรคหัวใจ จะได้วางแผนทำการรักษาร่วมกับแพทย์ได้อย่างเหมาะสม เพื่อลดความรุนแรงในการเป็นโรคหัวใจ ซึ่งวิธีการตรวจที่แพทย์มักใช้มีดังนี้
การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ECG หรือ EKG
การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ECG, EKG หรือ Electrocardiography คือ การทดสอบทางการแพทย์ที่ใช้วัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้ในการตรวจปัญหาเกี่ยวกับภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ อาการหัวใจวาย และอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เป็นวิธีการตรวจโรคหัวใจที่ไม่เจ็บปวด โดยในระหว่างการทดสอบ ECG อิเล็กโทรดจะติดอยู่ที่หน้าอก แขน และขา อิเล็กโทรดเหล่านี้จะตรวจจับสัญญาณคลื่นไฟฟ้าหัวใจ สัญญาณจะถูกบันทึกและแสดงบนจอภาพหรือพิมพ์บนกระดาษในรูปแบบของกราฟ ซึ่งจะให้ข้อมูลเพื่อการวินิจฉัยที่สำคัญเกี่ยวกับสภาวะของหัวใจในขณะนั้น
การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ECHO
การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ECHO หรือ Echocardiogram คือ เป็นการทดสอบอัลตราซาวนด์ชนิดหนึ่งที่ใช้คลื่นเสียงเพื่อแสดงภาพของหัวใจ ช่วยตรวจหาความผิดปกติของโครงสร้างหัวใจ เช่น ความหนาของผนังหัวใจหรือขนาดของห้องหัวใจ นอกจากนี้ยังสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานของหัวใจ รวมถึงความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหัวใจและลิ้นหัวใจว่าทำงานได้ดีเพียงใด โดยจะทำการวางอุปกรณ์ขนาดเล็กที่เรียกว่าทรานสดิวเซอร์ไว้ที่หน้าอก ทรานสดิวเซอร์จะปล่อยคลื่นเสียงความถี่สูง จากนั้นทรานสดิวเซอร์จะรับเสียงสะท้อนจากการเต้นของหัวใจเพื่อใช้สร้างเป็นภาพบนหน้าจอเป็นข้อมูลเพื่อการวินิจฉัย
ดังนั้น หากคุณหรือคนใกล้ตัวมีความเสี่ยงหรือเมื่อตรวจโรคหัวใจแล้วพบว่าเป็นโรคหัวใจ ควรวางแผนหรือหาวิธีการดูแล ป้องกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการดำเนินชีวิตประจำวัน ไปจนถึงการมองหาตัวช่วยในการดูแลได้อย่างใกล้ชิด เช่น เครื่องวัดสัญญาณชีพ ที่จะช่วยวัดอัตราการเต้นของหัวใจ คลื่นไฟฟ้าหัวใจ อัตราการหายใจ ความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด ความดันโลหิตแบบภายนอก และเครื่อง AED ที่หากมีเหตุการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้นกับผู้ป่วย ก็จะสามารถช่วยชีวิตได้อย่างทันท่วงที